ปั่นหุ้นซื้อหุ้นจากข้อมูลอินไซด์ที่ต่างประเทศติดคุกจริง 2ปี ส่วนไทยเราแค่ปรับจิ๊บๆ 30ล้าน เด๊ยวไปโกงบริษัทตัวเองก็ได้คืน
การใช้ข้อมูลภายใน มาซื้อหุ้นดักก่อนที่จะมีการประกาศ เทรนเดอร์ออฟเฟอร์
ซื้อดักไว้ หุ้นนั้นมีส่วนต่างถึงหุ้นละ 375 บาท .. คูณเข้าเอาแค่ล้านหุ้น ก็ 375000000 บาทละ
ถ้าจะโดนปรับซัก 30 ล้าน หักลบกันยังไง ก็เหลือกำไร 335 ล้านบาท
แค่นี้คิดซะว่าจ่ายค่าผ่านทาง ค่าภาษีสังคมไปซะ
เงินที่หายไป เด๊ยวไปโกงเอาจากบริษัทที่ตัวเองถือหุ้นเอาก็ได้ อย่างเช่นเวลาซ์้อกิจการก็จ่ายให้มากว่า ราคาที่ควรจะเป็น
บวกเข้าไปอีก 50 ล้าน ( คิดดอกเพิ่มจาก 30 ล้าน )
หรืออย่างการจ่ายค่าจ้างที่ปรึกษาการเงิน แพงๆ แล้วค่อยมาทอนเงินคืนที่หลัง
เพราะเราทำได้อยู่แล้ว เพราะเราคุมเสียงข้างมาก หุ้นไม่มีสภาพคล่องโหวตยังไงเราก็ชนะ
แล้วก็เรียกพวกแมงเมามาจ่ายเพิ่มทุน ส่วนเราก็ชักส่วนต่างเอากำไรออกจากบริษัทที่ไปเทคโอเวอร์มา ซัก 3 4 ร้อยล้าน ก็ทำได้
กฏหมายไทยมะนมีโทษสูงสุดแค่ปรับได้แค่นี้ ทำผิดแล้วมีกำไร จ่ายแต่ค่าปรับมันก็คุมที่จะทำ
แต่ถ้าอย่างในสหรัฐที่มีข้อดีแต่คนไทยกลับไม่เอาอย่างมาให้หมด คือ..
มี ผบห. รายหนึ่ง ขายหุ้นเล่นๆ แค่ 20000 เหรียญ ก่อนที่ศาลจะสั่งปรับ บริษัทของตน กะว่าขายเล่นๆ ขำๆ
เพราะตัวเองมีทรัพย์สินถึง 200 ล้าน แต่กฏหมาย หลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐไม่ขำด้วย
โดนฟ้องศาล และศาลสั่งจำคุกไม่รอลงอาญา 2 ปี ผู้บริหาร ขายหุ้นเล่นขำๆ เข้าคุกทันที 2ปี คราฟ
แต่เมืองไทยละ ทั้งปั่นหุ้น โยกเงินออกจาก บริษัท ไปขาย PP โดยไม่แจ้งเป็นมติบริษัทให้เอาหุ้น pp มาทิ้งใส่รายย่อย
เวลาปั่นหุ้นได้หลายร้อยล้าน กลต.สอบแล้วแต่สอบต่อลำบากก็เรียกมาจ่ายค่าปรับแล้วจบคดี
คนถูกกล่าวหาก็ยอมนะเพราะจ่ายแค่ 5 แสนเอง แล้วจบคดี. คุ้มจะตายใช้เงินซื้อความถูกต้อง
แต่อย่าง ผู้บริหารบริษัทโกงบริษัท ใช้ข้อมูลอินไซด์ มาซื้อหุ้นดัก
จริงๆแล้วน่าจะลงโทษให้หนัก เพราะเป็นทั้งผู้บริหาร และเป็นคนมีการศึกษาสูง ระดับ ด็อก เตอร์
ถ้ายังโกงยังเอากับเงินแค่นี้ ต่อไปเงินก้อนใหญ่กว่านี้จะไม่โกงหรือ
แปลว่า การศึกษาสูงลิบลิ้ว ไม่สามารถบอกได้ว่าคนนั้นมีคุณธรรมมีศีลธรรม
ตอนเด็กๆ ผมเคยคิดประโยคว่ารวยแล้วไม่โกง แต่จะเอาเงินช่วยคนด้อยกว่า
ผมว่าคำนี้ใช้เป็น ประโยคหาเสียงของผมไม่ได้แล้วละ ว่ารวยแล้วไม่โกง
เพราะการโกง ถ้าคนมันอย่างโกง อยากเอาเปรียบคนอื่น ต่อให้การศึกษาระดับไหนมันก็โกง
ถ้าคนพวกนี้มารวมตัวกันเมือ่ไหร่ การโกงก็จะยิ่งทวีคูณขึ้น
ฉะนั้นควรกำจัดการโกงการใช้ข้อมูลอินไซด์ตั้งแต่วันนี้ โทษของ หลักทรัพย์ ควรต้องมีโทษจำคุกและประหารเพิ่มขึ้นมาแล้ว
ไม่เช่นนั้นแล้ว เสี่ยงโกงแล้วร่ำรวยแถวกฏหมายจับไม่ได้
มันก็คุ้มที่จะโกง ...
.. .... แล้วสังคมไทยละจะเป็นยังไงต่อไป
..
ปั่นหุ้นซื้อหุ้นจากข้อมูลอินไซด์ที่ต่างประเทศติดคุกจริง 2ปี ส่วนไทยเราแค่ปรับจิ๊บๆ 30ล้าน เด๊ยวไปโกงบริษัทตัวเองก็ได้คืน
การใช้ข้อมูลภายใน มาซื้อหุ้นดักก่อนที่จะมีการประกาศ เทรนเดอร์ออฟเฟอร์
ซื้อดักไว้ หุ้นนั้นมีส่วนต่างถึงหุ้นละ 375 บาท .. คูณเข้าเอาแค่ล้านหุ้น ก็ 375000000 บาทละ
ถ้าจะโดนปรับซัก 30 ล้าน หักลบกันยังไง ก็เหลือกำไร 335 ล้านบาท
แค่นี้คิดซะว่าจ่ายค่าผ่านทาง ค่าภาษีสังคมไปซะ
เงินที่หายไป เด๊ยวไปโกงเอาจากบริษัทที่ตัวเองถือหุ้นเอาก็ได้ อย่างเช่นเวลาซ์้อกิจการก็จ่ายให้มากว่า ราคาที่ควรจะเป็น
บวกเข้าไปอีก 50 ล้าน ( คิดดอกเพิ่มจาก 30 ล้าน )
หรืออย่างการจ่ายค่าจ้างที่ปรึกษาการเงิน แพงๆ แล้วค่อยมาทอนเงินคืนที่หลัง
เพราะเราทำได้อยู่แล้ว เพราะเราคุมเสียงข้างมาก หุ้นไม่มีสภาพคล่องโหวตยังไงเราก็ชนะ
แล้วก็เรียกพวกแมงเมามาจ่ายเพิ่มทุน ส่วนเราก็ชักส่วนต่างเอากำไรออกจากบริษัทที่ไปเทคโอเวอร์มา ซัก 3 4 ร้อยล้าน ก็ทำได้
กฏหมายไทยมะนมีโทษสูงสุดแค่ปรับได้แค่นี้ ทำผิดแล้วมีกำไร จ่ายแต่ค่าปรับมันก็คุมที่จะทำ
แต่ถ้าอย่างในสหรัฐที่มีข้อดีแต่คนไทยกลับไม่เอาอย่างมาให้หมด คือ..
มี ผบห. รายหนึ่ง ขายหุ้นเล่นๆ แค่ 20000 เหรียญ ก่อนที่ศาลจะสั่งปรับ บริษัทของตน กะว่าขายเล่นๆ ขำๆ
เพราะตัวเองมีทรัพย์สินถึง 200 ล้าน แต่กฏหมาย หลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐไม่ขำด้วย
โดนฟ้องศาล และศาลสั่งจำคุกไม่รอลงอาญา 2 ปี ผู้บริหาร ขายหุ้นเล่นขำๆ เข้าคุกทันที 2ปี คราฟ
แต่เมืองไทยละ ทั้งปั่นหุ้น โยกเงินออกจาก บริษัท ไปขาย PP โดยไม่แจ้งเป็นมติบริษัทให้เอาหุ้น pp มาทิ้งใส่รายย่อย
เวลาปั่นหุ้นได้หลายร้อยล้าน กลต.สอบแล้วแต่สอบต่อลำบากก็เรียกมาจ่ายค่าปรับแล้วจบคดี
คนถูกกล่าวหาก็ยอมนะเพราะจ่ายแค่ 5 แสนเอง แล้วจบคดี. คุ้มจะตายใช้เงินซื้อความถูกต้อง
แต่อย่าง ผู้บริหารบริษัทโกงบริษัท ใช้ข้อมูลอินไซด์ มาซื้อหุ้นดัก
จริงๆแล้วน่าจะลงโทษให้หนัก เพราะเป็นทั้งผู้บริหาร และเป็นคนมีการศึกษาสูง ระดับ ด็อก เตอร์
ถ้ายังโกงยังเอากับเงินแค่นี้ ต่อไปเงินก้อนใหญ่กว่านี้จะไม่โกงหรือ
แปลว่า การศึกษาสูงลิบลิ้ว ไม่สามารถบอกได้ว่าคนนั้นมีคุณธรรมมีศีลธรรม
ตอนเด็กๆ ผมเคยคิดประโยคว่ารวยแล้วไม่โกง แต่จะเอาเงินช่วยคนด้อยกว่า
ผมว่าคำนี้ใช้เป็น ประโยคหาเสียงของผมไม่ได้แล้วละ ว่ารวยแล้วไม่โกง
เพราะการโกง ถ้าคนมันอย่างโกง อยากเอาเปรียบคนอื่น ต่อให้การศึกษาระดับไหนมันก็โกง
ถ้าคนพวกนี้มารวมตัวกันเมือ่ไหร่ การโกงก็จะยิ่งทวีคูณขึ้น
ฉะนั้นควรกำจัดการโกงการใช้ข้อมูลอินไซด์ตั้งแต่วันนี้ โทษของ หลักทรัพย์ ควรต้องมีโทษจำคุกและประหารเพิ่มขึ้นมาแล้ว
ไม่เช่นนั้นแล้ว เสี่ยงโกงแล้วร่ำรวยแถวกฏหมายจับไม่ได้
มันก็คุ้มที่จะโกง ...
.. .... แล้วสังคมไทยละจะเป็นยังไงต่อไป
..